Main idea ของเล่มนี้ ก็คือ "ซื้อแพงเพื่อไปขายในราคาที่แพงกว่า" หรือ "Buy High, Sell Higher" ครับ โดยจะเอาแนวคิดจากกราฟที่ว่านั้นไปรับใช้ไอเดียนี้
ที่มาของกราฟ, ก็ได้ใช้หลักคิดของสองไอดอลระดับตำนานมาเป็นกระดูกสันหลัง คือ
ปู่ Stan Weinstien กับ Richard D. Wyckoff
จุดซื้อหุ้นที่ใช่
มีอยู่ ๒ จุดใหญ่ๆ คือ
๑) ช่วงที่ราคาเปลี่ยนเทรนด์จากสะสมเป็นขาขึ้น โดยดูการข้ามจุดสูงสุดในรอบ 200 วัน และรูปแบบ bottom pattern ที่น่าเชื่อถือ นั่นก็คือ Wyckoff accumulation, Head and shoulders bottom รวมถึง การข้ามเส้นค่าเฉลี่ย 30 สัปดาห์พร้อมวอลุ่มยืนยันขาขึ้น อีกทั้งการเกิด Breakaway gap ในช่วงต้นเทรนด์
๒) ช่วงกลางแนวโน้ม เมื่อหุ้นตั้งใจวิ่งรอบใหญ่ก็จะมีการพักเหนื่อยเป็นระยะๆเพื่อสะสมและปล่อยคนหมดใจให้ออกจากหุ้น มันจึงเกิดการ Re-accumulation ซึ่งมันก็คือการย่อเพื่อไปต่อ หรือที่เรารู้จักกันในรูปแบบ continuation pattern ไม่ว่าจะเป็นการย่อยแรงขาย, inverse head and shoulders ที่เป็นต้นตอของรูปแบบ cup with handle หรือแม้กระทั่ง breakaway gap
หุ้นซิ่ง
หุ้นที่จะวิ่งแรงๆรวดเดียวเป็นเด้ง มักจะมีการทำรูปแบบสะสมที่ยาวนาน ซึ่งมักจะมาในทรง parabolic curve หรือ base on base
The line of least resistance
เป็นการขยายความลักษณะของ "การย่อเพื่อไปต่อ" และ "การยืนยันขาขึ้น" ผ่านแนวคิดการย่อยแรงขาย ทำให้เราเห็นรูปแบบราคาที่ซ่อนอยู่ในนั้น จนเกิด pivot point ซึ่งเป็นจุดซื้อที่เสี่ยงต่ำในสายตาตำนานอย่าง Jessie Livermore และมันส่งต่อมาถึงวิลเลียม โอนีล และ มาร์ค มิเนอร์วินี ในที่สุด
การ Stop loss
เรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้จัก แต่มือใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมากนัก เมื่อละเลย,จึงประสบกับการขาดทุนหนักกระทั่งเอาตัวไม่รอด บทนี้จึงพยายามโน้มน้าวให้ผู้อ่านเห็นความสำคัญของการรีบตัดขาดทุนให้ไว โดยเหตุผลหลักคือ ขาดทุนน้อย เอาคืนง่าย,
การทนรวย
เมื่อกล้า stop loss แล้ว จะรวยได้คุณต้องกล้าทนถือหุ้นให้กำไรเยอะๆ เพื่อให้เกิดกำไรสุทธิสูงๆต่อรอบ เมื่อกำไรทบต้นไปเรื่อยๆ ความมั่งคั่งก็บังเกิดในเวลาไม่นาน แนวคิดในการทนรวยก็คือการเอาหลักคิดเกี่ยวกับนิสัยของช่วงขาขึ้นมาใช้ นั่นคือ ตอนที่หุ้นเป็นขาขึ้น ราคาจะยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 30 สัปดาห์ หรือ Magic line ของมัน จนกว่าจะจบรอบ ก็คือตัดเส้นค่าเฉลี่ยนั้นลงไป เราจึงใช้เส้น Magic line นี้เพื่อเป็นไกด์ให้เราทนไปจนสิ้นแนวโน้ม ถ้าไม่หลุดก็ไม่ขาย
การ Take Profit
จุดขายที่ใช่นั้น, มีหลายรูปแบบ แน่นอน Wyckoff Distribution อธิบายได้ดีมาก อีกทั้งรูปแบบของ top pattern อย่าง Head and shoulders top, triple top, double top ก็ช่วยได้ หรือแม้กระทั่งคนที่ใจร้อนก็สามารถยึดเส้น trendline เพื่อช่วยให้ทำกำไรเฉพาะช่วงที่ราคาหุ้นมีโมเมนตัมดีที่สุด แต่ถ้าใครที่ใจเย็นก็สามารถใช้แนวทาง trailing stop มาช่วยก็ได้