พ่ายรักจ้าวดวงใจ

อันตราย อันตรายเหลือเกิน…
ใครจะคาดคิดว่ามาเฟียผู้เย็นชาและเยือกเย็น แท้จริงกลับร้อนแรงแสนอันตรายราวกับเปลวไฟร้อนระอุที่แผดเผาเธอจนแทบมอดไหม้ภายในจุมพิตเดียวแบบนี้!

++++++++++++

“ปละ ปล่อยนะ”

แม้จะถูกจุมพิตร้ายปลุกปั่นจนแทบจะไปไม่เป็น ทว่าสติสัมปชัญญะที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดนั้นสั่งให้คนที่หอบหายใจอย่างหนักเพราะเพิ่งจะได้พักหายใจหลังจากถูกจุมพิตมานานนับนาทีร้องห้ามเมื่อคนร้ายกาจที่จับตัวเธอมาทำท่าราวกับจะประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งผละห่างออกไปได้เพียงไม่กี่วินาทีแบบนั้น

“ปล่อยงั้นหรือ…”
คนที่ยอมผละจุมพิตร้อนแรงออกเพื่อให้คนตัวเล็กได้พักหายใจทวนคำชิดกลีบปากหวาน แม้จะผละริมฝีปากออกมาแล้ว ทว่าความหวานล้ำที่ได้รับกลับติดตรึงเสียจนไม่อาจผละห่างจากเธอได้ ใบหน้าคมคายยังคงแนบชิดดวงหน้าสวยจนปลายจมูกสัมผัสกัน
น้ำเสียงเข้มที่เอ่ยออกมาแม้ฟังดูเย็นชาไม่ต่างจากทุกครั้ง ทว่ามันกลับต่ำพร่ากว่าปกติเล็กน้อยบ่งบอกถึงแรงอารมณ์ที่เจ้าตัวพยายามปกปิดไว้ได้เป็นอย่างดี นัยน์ตาคมทรงอำนาจจ้องมองเจ้าของริมฝีปากแสนหวานราวกับจะกลืนกินให้หมดทั้งเนื้อทั้งตัวอย่างไรอย่างนั้น เรียวปากหนาเหยียดยิ้มบางเบา หากทว่าให้ความรู้สึกอันตรายเสียจนน่าหวาดหวั่นใจยามที่เจ้าตัวเอ่ยประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ไม่คิดหรือว่าตอนนี้คุณรู้เรื่องของผมมากเกินกว่าจะปล่อยไปแล้ว”

คำพูดเรียบนิ่งติดจะเย็นชาของอีกฝ่ายทว่ากลับทำให้หัวใจดวงน้อยหนาวยะเยือกด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาทันที ไม่นึกเลยว่าการที่เธอบังเอิญได้รับรู้ความลับของซาตานร้ายในคราบมาเฟียผู้นี้มากเกินไป จะทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์แสนอันตรายถึงเพียงนี้

“พอ พอได้แล้ว”

เสียงหวานร้องห้ามได้เพียงเท่านั้น เรียวปากร้ายกาจก็ฉกวูบบดจูบลงมาอีกครั้ง ราวกับจะบอกให้เธอรับรู้ว่าเวลาที่ให้เธอได้พักหายใจนั้นสิ้นสุดลงแล้ว จุมพิตในครั้งนี้ราวกับจะยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้นไปอีก ปลุกปั่นแรงอารมณ์ภายในกายสาวให้พลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไฟปรารถนาที่ถูกปลุกเร้าแผดเผาความนึกคิดที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของเธอไปจนแทบหมดสิ้น แขนแข็งแกร่งรั้งร่างในอ้อมแขนให้บดเบียดแนบชิดกับร่างสูงใหญ่จนแทบไม่หลงเหลือช่องว่างระหว่างกัน

แรงอารมณ์ร้อนระอุแผ่กระจายไปทั่วห้องราวกับไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดยั้งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ได้อีกต่อไป!