Icon Close

คู่มือการฝึกโยคะ เล่มที่ 58 (จบ) จากซีรีส์ 99 เล่ม

คู่มือการฝึกโยคะ เล่มที่ 58 (จบ) จากซีรีส์ 99 เล่ม
Icon Shop Camapign
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
15 กุมภาพันธ์ 2568
ความยาว
89 หน้า
ราคาปก
399 บาท (ประหยัด 79%)
คู่มือการฝึกโยคะ เล่มที่ 58 (จบ) จากซีรีส์ 99 เล่ม
คู่มือการฝึกโยคะ เล่มที่ 58 (จบ) จากซีรีส์ 99 เล่ม
Icon Shop Camapign
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
โยคะเป็นการฝึกฝนร่างกายและจิตใจที่มีรากฐานมาจากปรัชญาของอินเดียโบราณ โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความสมดุลทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เมื่อโยคะได้รับการนำมาใช้ในยุคปัจจุบัน จึงไม่เพียงแต่เป็นการฝึกท่าทางต่างๆ เพื่อสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาจิตใจและการปรับปรุงคุณภาพชีวิตในเชิงจิตวิทยา รวมถึงเชื่อมโยงกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา และการพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างโยคะ จิตวิทยา พระพุทธศาสนา และการพัฒนาตนเอง
โยคะและจิตวิทยามีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้ง เนื่องจากการฝึกโยคะช่วยให้เราสามารถรับรู้และจัดการกับอารมณ์และความคิดของตัวเองได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการฝึกสมาธิและการหายใจที่ถูกต้องซึ่งช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และพัฒนาความมีสติในชีวิตประจำวัน
ในด้านพระพุทธศาสนา โยคะสามารถเชื่อมโยงกับหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เช่น การฝึกฝนสติ (สติสัมปชัญญะ) การฝึกใจให้ตื่นรู้ในทุกขณะ และการฝึกปล่อยวางไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของการพัฒนาจิตใจให้เข้าถึงความสงบและปัญญา การฝึกโยคะจึงไม่ใช่แค่การเคลื่อนไหวทางร่างกาย แต่ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจให้ตระหนักรู้และสามารถยอมรับความเป็นจริงของชีวิตได้อย่างมีสติ
การพัฒนาตนเองในเชิงปรัชญาโยคะมีเป้าหมายในการบรรลุถึงความสมดุลในชีวิต การฝึกโยคะทำให้เราสามารถประยุกต์ใช้แนวทางการพัฒนาตนเองได้ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่การเรียนรู้ที่จะเป็นคนที่มีสมาธิ มีจิตใจที่มั่นคง และมีการยอมรับตัวเองในขณะที่ไม่ยึดติดกับความคิดหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้น
ประโยชน์ของการฝึกโยคะในเชิงจิตวิทยา
1. การลดความเครียด:
โยคะช่วยให้ระบบประสาทของร่างกายมีการผ่อนคลาย การหายใจลึก (Pranayama) เป็นการฝึกที่ช่วยลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด อีกทั้งท่าทางโยคะยังช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดความตึงเครียดในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้จิตใจสงบลง
2. การเพิ่มสมาธิ:
การฝึกโยคะช่วยฝึกสมาธิผ่านการจดจ่อกับการหายใจหรือท่าทางต่างๆ ในระหว่างการฝึก เมื่อเราฝึกสมาธิในโยคะ จะช่วยให้เราสามารถมีสมาธิในกิจกรรมอื่นๆ ในชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้น เช่น การทำงานหรือการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ
3. การพัฒนาอารมณ์:
การฝึกโยคะช่วยให้เรามีความตระหนักรู้ในอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งทำให้สามารถรับมือกับอารมณ์ในแต่ละขณะได้ดีขึ้น การฝึกโยคะจึงช่วยให้เราควบคุมอารมณ์และลดการเกิดอารมณ์เสียใจหรือกังวลจากสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว
4. การเพิ่มความมั่นคงทางจิตใจ:
เมื่อฝึกโยคะอย่างสม่ำเสมอ เราจะมีการพัฒนาในการฝึกฝนตัวเองให้มีความมั่นคงในใจ การเรียนรู้ที่จะไม่ยึดติดกับความคิดหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น
การเชื่อมโยงโยคะกับหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
หลักคำสอนของพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับการฝึกฝนใจให้มีสติสามารถเชื่อมโยงกับการฝึกโยคะได้อย่างดี การฝึกโยคะที่มีการตระหนักรู้ในทุกขณะ (Mindfulness) จะช่วยให้เรามีสติในชีวิตประจำวันและสามารถรับรู้ถึงการกระทำ คำพูด และความคิดของเราได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ การฝึกโยคะยังสามารถนำมาปรับใช้ในแนวทางของการฝึกฝนสมาธิและการปล่อยวางตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาได้ เช่น การยอมรับความเป็นจริงของชีวิตและการไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต
ในพระพุทธศาสนา การฝึกสติและการทำสมาธิเป็นเครื่องมือในการพัฒนาใจให้สงบ และโยคะก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยในการสร้างความสงบดังกล่าว โดยมีการฝึกทั้งร่างกายและจิตใจให้สมดุลไปพร้อมกัน นอกจากนี้โยคะยังสามารถเชื่อมโยงกับการฝึกฝนอารมณ์ เช่น การฝึกฝนการอดทน การไม่ยึดติดกับความอยาก หรือการเผชิญกับทุกข์ในชีวิตด้วยใจที่นิ่งและมีสติ
การฝึกโยคะจึงไม่เพียงแค่เป็นการพัฒนาทักษะทางร่างกาย แต่ยังเป็นการฝึกฝนจิตใจและวิธีการมองโลกอย่างมีสติ มีความยอมรับ และสามารถเผชิญกับความท้าทายในชีวิตได้อย่างมั่นคง.
ประเภทไฟล์
pdf
วันที่วางขาย
15 กุมภาพันธ์ 2568
ความยาว
89 หน้า
ราคาปก
399 บาท (ประหยัด 79%)

สนใจเวอร์ชันกระดาษ เชิญทางนี้!

เวอร์ชันกระดาษมีวางขายที่เว็บไซต์สำนักพิมพ์ จะไม่มีขายโดย MEB นะจ๊ะ สามารถสั่งซื้อ หรือติดต่อคนขายโดยตรงเลยจ้ะ
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
หนังสือเล่มนี้เปิดให้แสดงความคิดเห็นได้เฉพาะผู้ที่มีหนังสือฉบับเต็มเท่านั้น