All about บ้าน งานก่อสร้างบ้านและมาตรฐานเบื้องต้น

เกริ่นนำ

รูปแบบการก่อสร้างบ้านในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายรูปแบบ มีความยากง่ายที่ไม่เหมือนกันสามารถแยกประเภทรูปแบบการก่อสร้างได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้
แบบที่ 1 : แบบเสาสำเร็จ คานสำเร็จ
บ้านหลังเล็ก รูปแบบไม่ซับซ้อน ไม่มีการลงเสาเข็ม ใช้การขุดดินเพื่อลงเสาสำเร็จและเทปูนหล่อฐานที่เสาสำเร็จ จากนั้นทำคานบ้านโดยใช้คานสำเร็จรูปมาผูกกับเสาหรือใช้การหล่อคานโดยฝากเหล็กไว้กับเสาสำเร็จและเข้าแบบเพื่อหล่อคาน จากนั้นนำหิน ดินหรือทรายนำมาอัดในบล็อกคานเพื่อเทพื้นบ้าน จากนั้นจึงขึ้นโครงหลังคา มุงหลังคา ก่อผนัง แล้วจึงก่อสร้างตามรูปแบบปกติ โดยรูปแบบการก่อสร้างชนิดนี้ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับจำนวนเสาและตำแหน่งของเสาเป็นตัวนำ คล้ายรูปแบบการก่อสร้างสมัยก่อนที่วัดขนาดความกว้างใหญ่ของบ้านกันที่จำนวนเสา
แบบที่ 2 : แบบหล่อเสาและคาน
บ้านที่มีความซับซ้อน หลังใหญ่ ใช้การลงเสาเข็ม ฐานรากเป็นตัวรับน้ำหนัก ตามด้วยการหล่อต่อม่อ คาน พื้น เสา โครงหลังคา และงานสถาปัตย์ ซึ่งการก่อสร้างในรูปแบบนี้เป็นรูปแบบปกติที่เป็นหลักสูตรในการสอนโรงเรียนทางด้านสถาปัตยกรรมและเป็นรูปแบบการก่อสร้างปกติทั่วไปที่ได้มาตรฐาน ต้องมีผู้ควบคุมงาน มีการออกแบบเขียนแบบ ก่อสร้างจากแบบก่อสร้าง รูปแบบการก่อสร้างประเภทนี้ไม่สามารถใช้ช่างทั่วไปมาทำได้ต้องเป็นช่างที่มีวิชาชีพในการทำงาน เพราะส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับกฎหมายในการยื่นขออนุญาต การรับประกัน
แบบที่ 3 : แบบบ้านโครงสร้างเหล็ก น็อคดาวน์
บ้านประเภทนี้จะใช้โครงสร้างเหล็กเป็นหลัก มีทั้งแบบทำสำเร็จรูปยกมาตั้งวางกับก่อสร้างหน้างานโดยตรง
เนื้อหาใจความส่วนใหญ่ในหนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นตามกระบวนการก่อสร้างบ้านแบบที่ 2 โดยเริ่มตั้งแต่ เสาเข็ม ประเภทฐานราก ส่วนงานฐานราก ต่อม่อ คาน พื้น เสา จะเขียนอธิบายเกี่ยวกับคอนกรีตและเหล็ก เนื่องจากงานตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงเสานั้นเป็นงานคอนกรีตเสริมเหล็ก ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคอนกรีต ประเภทคอนกรีต การบ่มคอนกรีต ความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับงานคอนกรีตที่เจ้าของบ้านสามารถทำความเข้าใจเองได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับหลักวิศวกรรม ส่วนในเรื่องของงานเหล็ก เจ้าของบ้านควรรู้ถึงวิธีการดูเหล็กและมาตรฐานของเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้าง เพราะทั้งเหล็กและคอนกรีตคือวัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างของบ้าน เป็นส่วนที่ก่อสร้างไวและต้องใส่ใจ
ส่วนงานก่อสร้างในหมวดงานสถาปัตยกรรมล้วนเกี่ยวข้องกับวัสดุเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีในเรื่องของวัสดุนั้นพัฒนาไปไกลมากจนไม่สามารถนำรายละเอียดของทุกๆวัสดุมาลงได้ แต่ถึงแม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปหลากหลายแค่ไหน ตัววัสดุต่างๆยังคงมีประเภทของตัวมันเองอยู่ ซึ่งเจ้าของบ้านต้องทำความเข้าใจในส่วนนี้ว่าวัสดุชนิดนี้จัดอยู่ในประเภทไหนและนำไปใช้แบบใด ซึ่งการทำความเข้าใจในส่วนนี้จะช่วยให้เจ้าของบ้านใช้วัสดุได้ถูกประเภท มีความคงทน ลดปัญหาจุกจิก และเลือกใช้ได้อย่างถูกวิธี

"การไม่มีข้อมูลใดใดเลย ทำให้ผู้นั้นปราศจากคำถาม"
"เมื่ิอไม่มีคำถาม เขาทำอะไรให้ก็คิดว่าสิ่งนั้นถูกต้องแล้ว"