ภรรยาที่ไม่เคยคิดจะรัก

โดนเขากล่าวหาว่าเป็นเด็กใจแตก พ่อแม่เอามาขายแลกเงินจนเขาต้องซวยมาเป็นสามีของเธอไปด้วย "ก็ทำตัวง่ายๆเหมือนอย่างครอบครัวเธอนั้นแหละ ทำให้คนเขาอื่นเดือดร้อนด้วยกันไปหมด"

โปรย.
"พี่เจต ใจเย็น ๆ สิคะ เกรซยังไม่ทันได้พาขึ้นห้องเลยนะคะ"
"ไม่เห็นต้องขึ้นไปบนห้องเลยนี่ ตรงนี้ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร"
"พี่เจตพูดอะไรแบบนั้นคะ เมียพี่ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน"
"นิดแค่ลงมาปิดไฟในครัว กำลังจะขึ้นห้อง คุณจะทำอะไรตรงไหนก็เชิญเถอะค่ะ นิดไม่ได้จะลงมารบกวนอยู่แล้ว"
"เหอะ! รกหูรกตาจริง ๆ ถึงจะไม่เดินลงมาฉันก็อึดอัดอยู่ดี แค่มีเธออยู่ในบ้านหลังนี้ฉันก็อึดอัดจนอยากจะบ้า"
ทว่ายังไม่ทันที่นิตยาจะได้ก้าวเท้าขึ้นบันได คำพูดหยาบคายของเจษฎาก็ดังขึ้นมาทันที เธอหันขวับกลับมามองทันที คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจ ผู้ชายอะไรปากเสียซะจริง
"พี่เจตจะออกไปทำเรื่องอย่างว่าที่อื่นก็ได้ นิดไม่เอาไปฟ้องคุณอาหรอกค่ะ"
นิตยากล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเน้นย้ำราวกับอยากจะตัดบทให้มันจบๆ ไป
"ก็ถ้าพ่อฉันไม่สงคนมาคอยตามฉัน ฉันก็คงได้ใช้ชีวิตอิสระมากกว่านี้ไปแล้ว"
เจษฎาสวนกลับทันทีด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด อารมณ์ที่ติดพันมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้คำพูดของเขายิ่งดูแข็งกระด้างกว่าเดิม
"ถ้างั้นพี่เจตอยากจะทำอะไรก็ทำ นิดไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว"
"เธอมันก็ทำตัวง่ายๆ เหมือนอย่างครอบครัวเธอนั้นแหละ ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนกันไปหมด"
"พี่เจต!"
คำพูดของเจษฎาทำให้นิตยาหยุดชะงักอีกครั้ง คิวสวยขมวดขึ้นเป็นปมทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของอีกคน ไอ้ที่อีกคนไม่ได้เต็มใจอยากจะจดทะเบียนกับเธอนั้นก็พอเข้าใจอยู่หลอก แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่เข้าใจว่าทั้งคู่ก็เซ็นใบหย่าได้เหมือนกัน ทำไมถึงต้องพูดจาแบบนั้นใส่กันด้วย