Icon Close

ไดโอจีเนส เทพเจ้าผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข

ไดโอจีเนส เทพเจ้าผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข
Icon Shop Camapign
สำนักพิมพ์ไศเลนทร์
หมวดหมู่ชีวประวัติ
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
04 พฤศจิกายน 2567
ความยาว
87 หน้า (≈ 4,781 คำ)
ราคาปก
222 บาท (ประหยัด 69%)
ไดโอจีเนส เทพเจ้าผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข
ไดโอจีเนส เทพเจ้าผู้ใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข
Icon Shop Camapign
5.00
Icon RatingIcon RatingIcon RatingIcon RatingIcon Rating
1 Rating
ไดโอจีเนสแห่งซีนอป (Diogenes of Sinope) ประมาณ 380 ปีก่อนคริสตกาล เป็นลูกศิษย์ของแอนทิสเทเนส ก่อนอื่นขอกล่าวถึงปรัชญาซินิกส์ก่อน ซึ่งปรัชญาซินิกส์นี้เป็นหลักคิดที่ก่อตั้งขึ้นโดยแอนทิสเทเนส (Antisthenes) ผู้เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของโสกราตีส ปรัชญาซีนิกส์ขึ้นชื่อในด้านไหวพริบและความเฉียบแหลม ยกตัวอย่างเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้อื่นนั้น แอนทิสเทเนส ให้ความเห็นว่า “การฟังอีกาดีกว่าการฟังผู้ประจบสอพลอ เพราะอย่างแรกท่านจะถูกกลืนกินเมื่อตายแล้ว แต่อย่างหลังนั้นขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่” นอกจากนี้เขายังแนะนำผู้ฟังของเขา “ให้ความสนใจกับศัตรูของท่าน เพราะพวกเขาเป็นคนแรกที่ค้นพบความผิดพลาดของท่าน”
ไดโอจีเนสเป็นลูกศิษย์ของแอนทิสเทเนสและกลายเป็นนักปรัชญาซีนิกส์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คำว่า Diogenes มีความหมายว่าสุนัข เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตตามวิถีแห่งสุนัขหรือสุนัขมรรคา โดยเพลโตเรียกไดโอจีเนสว่า "โสกราตีสที่กลายเป็นบ้า" ส่วนอริสโตเติลก็ได้กล่าวถึงไดโอจีเนสเช่นกัน โดยเรียกเขาว่า "สุนัข"
ไดโอจีเนสใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัขจรจัด เลือกที่จะขอเศษอาหารและเห่าใส่ใครก็ตามที่เขาคิดว่าสมควรได้รับมัน เขามีทัศนะว่า คนเราควรทำในสิ่งที่จำเป็นและใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ในกรณีนี้ หมายถึง การไม่เด็ดผลไม้จากต้นไม้ในป่าและยังชีพด้วยถั่วเลนทิลอันพอประมาณ เขาไม่ครอบครองสิ่งใดนอกเสียจากไม้เท้าและกระเป๋าหนัง และอาศัยในที่พักอาศัยเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เช่นโอ่งดินเผาที่มีชื่อเสียง ส่วนจุดมุ่งหมายสูงสุดของซีนิกส์คือ อิสรภาพจากสิ่งรบกวนและความไม่สงบ หรือในภาษากรีกเรียกว่า ataraxia และ apatheia
เหตุผลในการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายนี้ ไดโอจีเนสตั้งข้อสังเกตว่า “เหล่าทวยเทพประทานวิธีการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายแก่มนุษย์ แต่สิ่งนี้ถูกมองข้ามไป เพราะเราต้องการเค้กน้ำผึ้ง นั่นคือความบ้าคลั่งของมนุษย์ เขายังกล่าวอีกว่า “คนเลวเชื่อฟังตัณหาของตนเหมือนบ่าวเชื่อฟังนาย” และเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถควบคุมความปรารถนาของตนเองได้ พวกเขาจึงไม่อาจแสวงหาความพึงพอใจในตนเองได้นั่นเอง
ไดโอจีเนส ชอบอาศัยอยู่ในโอ่งเก็บน้ำและแทบไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติอะไรเลย เขาไม่เคารพบรรทัดฐานทางสังคมและคิดว่ามนุษย์ควรใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไดโอจีเนสดูถูกเยาะเย้ยสิ่งที่ ‘อารยธรรม’ มอบให้กับมนุษย์ โดยเขาจะกล่าวว่า "มนุษย์ได้ทำให้ของขวัญที่เรียบง่ายทุกอย่างจากเทพเจ้าซับซ้อนขึ้น"
มีเรื่องเล่าอันโด่งดัง ในการที่ไดโอจีเนสบอกให้พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชหลีกทางออกไปเสีย เพราะพระองค์บดบังแสงแดดของเขา และนักปรัชญาผู้นี้เองที่ทำลายทรัพย์สมบัติเพียงชิ้นเดียวของเขาคือถ้วย หลังจากที่เห็นเด็กชายคนหนึ่งดื่มน้ำด้วยมือเปล่า “ช่างโง่เขลานัก ข้าแบกสัมภาระฟุ่มเฟือยมาโดยตลอด!”? ไดโอจีเนสกล่าว
เขายึดถือความเชื่อของเขาอย่างจริงจังจนถึงจุดที่กระทำการอนาจารในที่สาธารณะ เขาจะถ่มน้ำลายหรือปัสสาวะใส่หน้าคนที่หยาบคายกับเขา ช่วยตัวเองในที่สาธารณะ และถ่ายอุจจาระในที่ที่ไม่เหมาะสม เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการช่วยตัวเองในที่สาธารณะ เขาตอบว่า “ถ้ามันจะขจัดความหิวโหยเสียได้”
เวลาขอทาน ซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะเขาไม่มีเงินเลย แทนที่จะอ้อวอนเขาจะกล่าวว่า “หากท่านเคยให้ทานมากก่อนแล้วไซร้ก็พึงให้ข้าดุจกัน แต่หากว่าท่านยังไม่เคยให้ทานแก่ใครมาก่อนเลย ก็จงเริ่มต้นที่ข้าเสียเถอะ”
อาจเป็นเรื่องน่าแปลกที่เราจะเรียกบุคคลดังกล่าวว่านักปรัชญา แต่ความตั้งใจของไดโอจีเนสก็คือ การหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับความจำเป็นของบรรทัดฐานทางสังคม เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่เป็นเวลานานแล้วโดยปราศจากบรรทัดฐานทางสังคมส่วนใหญ่ที่เป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันนี้ เขาเห็นว่ารูปปั้นซึ่งมีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือทำให้ดวงตาพอใจ แต่บรรทัดฐานทางสังคมกลับทำให้มันมีราคาถึงสามพันดรัชมา ในขณะที่ข้าวบาร์เลย์หนึ่งควอร์ตซึ่งเมื่อบริโภคเข้าไปจะทำให้มีชีวิตอยู่รอดได้ แต่กลับหาซื้อได้เพียงสองเหรียญทองแดงเท่านั้นเอง
ไดโอจีเนสยังเชื่อว่าอารยธรรมและกฎเกณฑ์ทั้งหมดทำให้ชีวิตของคนเราแย่ลงกว่าเดิม และความสุขเทียมทั้งหมดที่มีให้นั้นก็มักจะพรากความเพลิดเพลินและประสบการณ์ชีวิตอันสมบูรณ์ของเราไป เขาเชื่อว่าความหิวเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดีที่สุดและเขาจะรอคอยจนกระทั่งหิวโหยหรือกระหายน้ำก่อนที่จะกินหรือดื่ม
ประเภทไฟล์
pdf, epub
วันที่วางขาย
04 พฤศจิกายน 2567
ความยาว
87 หน้า (≈ 4,781 คำ)
ราคาปก
222 บาท (ประหยัด 69%)
เขียนรีวิวและให้เรตติ้ง
คุณสามารถเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็นได้จ้า